เที่ยวเนปาล ตอนที่ 1

ตังค์นิดเดียว ก็เที่ยวได้ >>> เที่ยวเนปาล ตอนที่ 1 | เดินทาง Shopping พายเรือ กินเบียร์ นอน

ขั้นตอนเตรียมตัวของเรา หลังจากตกลงปลงใจว่าไปได้ชัวร์ๆแล้ว เพราะต้องลางานหลายวัน

10868023_408232639326578_3838309686089165490_n

(ภาพจาก google)

อันดับแรกเลย : ซื้อตั๋ว เราจองตั๋วแอร์เอเชีย ไปต่อเครื่องแอร์เอเชียเอ๊กซ์ของมาเลเซีย (ตอนซื้อยังไม่มีของไทย) ราคา 15,000 บาท ไม่รวมค่ากระเป๋าอีก 20 กก. แนะนำว่าถ้าใครไปเป็นคู่ ก็จัดกับคู่ของเรา เพราะกระเป๋าแบ๊คแพ๊คน้ำหนักจะเบาใส่ยังไงก็ไม่ถึง 20 กก. แน่นอน แถมยังถือขึ้นเครื่องได้อีกคนละ 7 กก. เพื่อนบางคนในทริปจองช้า ตั๋วขึ้นราคาอย่างน่าตกใจ ต้องฝากกายฝากใจไปการบินไทย ข้อดีคือบินตรงค่ะ แต่งแพงหน่อย แพงกว่าพวกเรา 6,000 บาทเอ๊ง

อ้อ..ถ้าบินของมาเลเซีย อย่าลืมแลกเงินมาเลไปเผื่อซื้ออะไรทานเล่นระหว่างรอ หรือตอนอยู่บนเครื่อง ไม่งั้นต้องทนดมกลิ่นอาหารตอนที่ผู้โดยสารเกือบทั้งลำสั่งอาหารมาทานกันนะคะ จะหาว่ากัสจิไม่เตือน

ต่อมา : เลือกเส้นทาง Trekking ค่ะ การขึ้น Poonhill มีหลายเส้นทาง แล้วแต่วันว่าเราอยากขึ้นทางไหน และใช้เวลากี่วัน พวกเราเลือกเส้น….Nayapul, Ulleri, Ghorepani, Poon Hill, Ghandruk และกลับมา Nayapul ใช้เวลาเดินขึ้น 2 วัน เดินลง 2 วัน เป็น 4 วันเต็มๆ

10014744_10152462171239703_2489697450312509694_o

ลืมไปเลยค่ะ…ขั้นตอนการคัดเลือกผู้ร่วมทริป ขั้นตอนนี้แนะนำว่าควรเป็นคนที่อยากไปอยู่แล้ว หาข้อมูลมาบ้าง เพราะการ Trekking ถ้าไม่ชอบ ร่างกายไม่ฟิตนี่จะไม่สนุกเอาซะเลย และที่สำคัญ ขอคนที่พร้อมลุยกะเรานะคะ เราโชคดีไปกัน 10 คน แต่ไม่มีปัญหาหมางใจกันกลับมา
ทุกคนสู้มาก ประทับใจค่ะ

เมื่อได้เส้นทางและผู้ร่วมทางแล้ว ก็ไปขอวีซ่ากันค่า ไปเนปาลต้องมีวีซ่านะคะ แต่ไม่ต้องไปเองก็ได้ค่ะ ฝากเพื่อนที่ว่างได้ และทริปนี้ก็คือเราเอง ใช้เวลาอนุมัติวันเดียวค่ะ ค่าเสียหาย 875 บาท อยู่ได้ 15 วัน พวกเราอยู่เนปาล 7-8 วัน เหลือๆค่ะ หรือใครไม่สะดวกจริงๆ ก็มี Visa on arrival นะคะ แต่แถวยาวมากไม่แนะนำค่ะ

10624647_407702646046244_2547955585430254164_n

ถึงแล้วค่า ถึง Kathmandu ถึงซะที
เป็นสนามบินที่นี่น่ากลัวและหลอนมาก มากแค่ไหนลอง search google ดูโหดจริงๆค่ะ เค้าห้ามถ่ายรูป เราก็แอบถ่ายนะ แต่ไม่กล้าลง

ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาได้ก็ไปเอากระเป๋า แล้วก็ไปซื้อซิม Local เอาไว้โทรและเล่นเน็ต ขาดไม่ได้อะ social เนี่ย

เค้าท์เตอร์อยู่ตรงทางออกสนามบินเลยค่ะ เลยจุดแลกเงินนิดเดียว (แลกไปนิดเดียวก่อนนะคะ เดี๋ยวไปแลกในเมืองเอา rate ดีกว่าค่ะ)

เราเลือกใช้เครือข่ายเจ้า Ncell ค่ะ สีม่วงๆนะคะ ส่วน Package แล้วแต่เลือกเลยค่ะ จะเป็นซิมแบบเติมเงินค่ะ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เน็ตเท่าไหร่ โทรเท่าไหร่ มีตารางภาษาอังกฤษให้ ก็จิ้มๆเอา แล้วน้องพนักงานก็จะเอาซิมให้ ใส่ให้ด้วยเลยก็ได้อะ ตอนนั้นเพิ่งใช้ Note3 ใส่ซิมไม่เป็น คุณน้องจัดให้ได้หมด ตั้งค่าให้ คนละ 2 นาที เป็นอันจบเรื่อง

เข้าเรื่องกันดีกว่า จากสนามบินจะเข้าไปที่พักทาเมลยังไงดี??
เราให้โรงแรมส่งรถมารับค่ะ ไม่เสียค่าใช้จ่าย อันนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของโรงแรม ถ้าไม่ได้ก็ลองอ้อนเอานะคะ คนเนปาลีก็ใจดีอยู่นา

คนที่มารับจะถือป้ายชื่อของเรา ยืนรออยู่หน้าสนามบิน เราก็แค่เดินหาชื่อตัวเอง จะรู้สึกสวยมากตอนเดินผ่านป้ายชื่ออื่นๆ คนมารับเราก็ยืนซะปลายแถวเลย ไอ้เราก็สายตาสั้นต้องเดินเข้าไปดูใกล้ ก็เขินบ้างนิดๆค่ะ

ถึงโรงแรมเอาของเก็บ ใส่ jacket ซะหน่อย ยิ่งดึกยิ่งหนาว (เราไปช่วงสงกรานต์) แล้วก็เดินไปย่านทาเมล ซึ่งก็เหมือนข้าวสารบ้านเรา แวะแลกเงิน (ถ้าจำไม่ผิดยิ่งเดินเข้าไปลึกๆ rate จะยิ่งไม่ดีนะคะ) แล้วก็มุ่งหน้าไปทำภารกิจที่ทำเป็นประจำทุกทริป นั่นคือ…ทดสอบคุณภาพเบียร์ของแต่ละประเทศ แล้วกลับมานอนเอาแรง พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางไป Pokhara แต่เช้า

เช้าแล้ววว …

ออกเดินทางไป Pokhara แต่เช้า โดยรถตู้ส่วนตัว พวกเราลงมติเลือกเที่ยวแบบมีไกด์
ไกด์ของเราชื่อ Dipak สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี ข้อมูลแน่นปึ๊ก ใจดี ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน
Dipak เคยเป็นลูกหาบมาก่อนและ level up มาเป็นไกด์ในภายหลัง เรามีรูปมาให้ดูด้วยนะ Dipak ของเรามาพร้อมลูกหาบอีก 3 คน สำหรับหาบของของคน 9 คน (เราไปกัน 10 คนนะแต่มีคนนึงอยากลองของและหาบเองจ้า)

1509145_407758449373997_3237626867953428607_n

หลายคนสงสัยของ 9 คนต่อลูกหาบตัวจิ๋วๆ 3 คน ประหยัดไปมั้ยคะพี่
ตอบ…พวกเรารวมของกัน เอาไปเท่าที่จำเป็น ที่เหลือฝากไว้ที่โรงแรมใน Pokhara ค่ะ
ค่าเสียหาย 150$ ต่อคนถ้าจำไม่ผิด ราคานี้รวมค่าเดินทางไปกลับ ค่า License ในการ Trekking ค่าที่พักระหว่างการเดิน ค่าจ้างไกด์ ค่าแรงลูกค้า ไม่รวมทิปนะคะ โปรดเตรียมไปด้วย ที่นี่ให้น้อยมีงอนอะ
จะบอกว่าหากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายลงอีก สามารถเลือกลูกหาบที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วไปทิปเค้าหนักๆเอาก็ได้ค่ะ

ใช้เวลาเดินทางไป Pokhara ราวๆ 7 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ จริงๆระยะทางไม่ได้ไกลมากนะคะ แต่ถนนเป็นแบบ 2 เลนเล็กๆวิ่งสวนกัน วิ่งอย่างซิ่งเลยค่า จะเห็นรถตกข้างทางอยู่ตลอดทางตามภาพ (ถ้ามีเวลาจำกัดและมีงบเยอะ นั่งเครื่องบินภายในประเทศไปก็ได้นะคะ 30 นาทีก็ถึงค่ะ
ค่าตั๋วประมาณ 70$ ค่ะ หากมีโอกาสไปอีกเราก็ว่าจะลองนั่งเครื่องบินดูเหมือนกัน)

7 ชั่วโมงของเรา ก็มีแวะกินข้าว เข้าห้องน้ำ ไม่ต้องห่วง แถมยังได้ชิมอาหารท้องถิ่นอีกด้วย โดยเฉพาะชา เราจัดกลับไทยมาซะเยอะเลย เด็ดจริงๆ 

   10380323_407758416040667_5625093327187080007_n    10301220_407705969379245_8753995723571932789_n

พูดถึงเนปาลแล้วเปรี้ยวปากอยากกินแตงกวาคลุกฝุ่น คือ ระหว่างนั่งรถไปและกลับ Kathmadu-Pokhara จะมีช่วงแวะเติมน้ำมัน แล้วจะมีชาวเนปาลี เดินมาเคาะกระจกขายแตงกวา…
อ่านไม่ผิดค่ะ แตงกวาจริงๆ แตงกวาผลใหญ่ๆยาวๆ ผ่าครึ่งแล้วปาดด้วยซอส
(น่าจะเป็นพริก เกลือ และอะไรอีกก็ไม่แน่ใจ) แต่อร่อยดี แม้จะเคลือบด้วยฝุ่นก็ตาม
ถนนหนทางที่นั่นเรียกได้ว่าฝุ่นตลบค่า แต่กินมั้ย กินสิคะ ฟินจริงๆ

ถึง Pokhara เข้าที่พัก เห้ยยย มันดีอะ ห้องกว้าง สะอาดมาก มองเห็นเทือกเขา Annapurna เลยสวยมาก เก็บรูปวิวจากที่พักมาฝากด้วย (ไปดูด้วยตาจะสวยกว่านี้อีก)

10390451_407769999372842_1847987977911597641_n

จากที่พัก เราสามารถเดินไปเที่ยวในเมือง Pokhara ได้เลย ระหว่างทางจะมีของขายเพียบ เสื้อผ้า อาหาร และอุปกรณ์สำหรับ Trekking ครบทุกสิ่งอย่าง มีทั้งแบบให้เช่า และขายขาด เปรียบเทียบราคาแล้วพวกเราก็ซื้อไปเลย โดยเฉพาะไม้ค้ำนี่ต้องมีเลยนะคะ ได้ใช้คุ้มแน่ๆ ซื้อเลยอย่าเสียดายค่ะ อย่าลืมต่อหนักๆเลยนะคะ

1380601_407770012706174_7705618258331680711_n

10868208_407769996039509_4939773619929129852_n

10294462_407770059372836_8685550626372657192_n

พวกสร้อยที่ทำจากหินที่ฮิตๆกันที่บ้านเรา ซื้อจากที่นี่ได้เลยค่ะ ไม่แพง มีแบบให้เลือกอย่างเยอะ ซื้อบนเขาจะแพงกว่า แบบให้เลือกก็น้อยด้วย

10010548_10152462111639703_8593531380248378259_o

966183_10152462111634703_2478027182771208565_o

10284751_10152462111654703_3491046240417633519_o
เดินไปเรื่อยๆก็ถึงวัดกลางน้ำ ต้องพายเรือไปค่ะ แต่พวกเราไม่ค่อยอินกับวัดซักเท่าไหร่ เลยพายเล่นรอบๆ จำราคาไม่ได้ค่ะ แต่ไม่แพง พอพายเรือจนเหนื่อยก็คอแห้ง วันนี้เลยสั่งมาลอง 2 ยี่ห้อ (ได้ข่าวว่าคืนก่อนก็ลองมาแล้ว) คือ Nepal Ice กับ Everest ส่วนตัวเทคะแนนให้ Everest นะ เราว่าอร่อยดี ซื้อเป็นกระป๋องกลับมาไทยด้วย ติดใจค่ะ

10625038_407770009372841_5012710044975581994_n

10846106_407770002706175_3437575749966754211_n

กินกันจนพรอาทิตย์ตกก็เดินไปงานประจำปี เหมือนจะตรงกับวันปีใหม่ของที่นั่น จัดงานใหญ่โตเลย มีการเก็บตั๋วเข้างาน มีของกินขาย คอนเสิร์ตก็มี อารมณ์งานวัดบ้านเรา เครื่องเล่นต่างๆคนต่อคิวเพียบ ตอนแรกจะลองชิงช้าสวรรค์ เดินไปเห็นอ้าวววว ไม่มีประตูปิด แถมยังหมุนด้วยความเร็วสูงเป็นอย่างมาก มองหน้ากันไปมาไปเล่นอย่างอื่นกันดีกว่า สรุปไปจัด tattoo กันมาคนละลายสองลาย ล้างออกยากมาก ติดอยู่ตลอดทริป เสร็จแล้วแวะซื้อขึ้นไปกินต่อนิดหน่อย แล้วก็นอน

ใส่ความเห็น