เที่ยวเนปาล ตอนที่ 2

ตังค์นิดเดียว ก็เที่ยวได้ >>> เที่ยวเนปาล ตอนที่ 2 | Go go go…Poonhill

Day 1 Poonhill Trekking (Finally)

ออกเดินทางแต่เช้าไป Nayapul ระหว่างทาง Dipak พาไปแวะจุดชมวิวถ่ายรูปสวย ใจดีที่สุด
ไม่สิๆ รู้ใจที่สุดอะ

10433295_407784632704712_2185176237115741156_n

Nayapul เป็นจุดแรกที่ต้อง Check point เพื่อลงทะเบียนเดินขึ้นเขาค่ะ (ต้องเตรียมรูปถ่าย 2 นิ้วฉากขาวไปด้วยนะคะ) เราไม่ต้องทำอะไรไกด์จะจัดการให้เอง แค่อยู่เฉยๆแล้วถ่ายรูปไป ที่สำคัญกินให้อิ่ม เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เราจะไปกันแล้ววว

10645081_407784622704713_6385322245809222667_n

10850233_407784619371380_1128240202617633615_n

เริ่มออกเดินทางกันด้วยรอยยิ้มที่สดใส เดินไปซักชั่วโมงสิคะ “Can I change my mind?” “Please leave me here” หรือว่า “เปลี่ยนใจทันมั้ย Dipak” นี่เป็นประโยคฮิตเลย เพราะระหว่างทางมันมีทั้งทางเรียบ ทางขึ้นเขา ทางหิน ทางน้ำนิดหน่อย แต่มันมีแต่ขึ้นแล้วก็ขึ้น เอาซี๊ มาดูกันว่าใครจะขอกลับก่อน โอยยยย.. ยากจะบรรยายค่ะ โดยเฉพาะหินหฤโหดช่วงสุดท้ายก่อนถึงที่พัก เราอยากจะขอ Dipak นอนมันตรงหินนี่แหละ แล้วมาเจอเด็กน้อยเนปาลีวิ่งแซงแล้วตดใส่อีก บ้าไปแล้วค่าา

15857_407784692704706_5943136265043120647_n

10847989_407784689371373_6099689370960633750_n

10406988_407784626038046_2340445990016666982_n

ช่างตดมันเถอะค่ะ คืนนี้เราจะไปนอนกันที่ Ulleri กันนะ โอเคอยู่ นอนได้ อาบน้ำได้ อาหารอร่อยเพียงแต่มันไม่ถูกปากเราเอาซะเลย เราเลยใส่ทาคูมิที่เอามา และใส่หอยกระป๋องเข้าไปอีก ไกด์งอนเลยค่ะ ประมาณว่าแกต้องกินให้ได้สิ แกกินได้ชั้นก็ได้เงินนะ แล้วมันเหมือนดูถูกว่าของเค้าไม่ดีไม่อร่อย อือๆๆ กินก็กินวะ บอกตัวเอง (มื้ออื่นๆเลยแอบใส่ อย่าให้ไกด์รู้) กินข้าวเสร็จ กินเบียร์ต่อ แล้วแยกย้ายไปนอน พรุ่งนี้เดินขึ้นอีกยาวไกลนะจ๊ะเด็กๆ ฝนอาจจะตกด้วย

Day 2 Go to Ghorepani !!!

ตื่นเช้ามาก (ทุกวัน) วันนี้ทางราบเยอะหน่อย ร่มไม้ก็เยอะด้วย ดีจัง..
เตรียมตัวกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางสู่ Ghorepani วิวสวยขึ้นไปอีก เห็นแก๊งส์ Annapurna ชัดขึ้นไปอีก สุดๆละ หลายคนเริ่มบ่นปวดขาแล้ว แต่เรายังไหวอยู่ เพราะเดินเรื่อยๆ ด้วยความเร็วคงที่ ไม่เร่งสปีดใดๆ (เคล็ดลับจาก Dipak)

10690169_408106982672477_3208705735474108639_n

10850147_408106946005814_2641066688997696877_n

10300206_408106859339156_5156499536993931114_n

10845975_408106852672490_5584628991386506566_n

เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็แวะกินขนม สนุกๆอยู่ดีๆ ฝนตกจ้า เอาแล้วไงลืมเสื้อกันฝนได้ไง เราโชคดีเจอคนไทยใจดี แบ่งเสื้อกันฝนมาให้ด้วย ขอบคุณมากๆเลยค่า แล้วก็เดินต่อไป

การเดิน Trekking ที่นี่ จะมีแวะให้ทานอาหารตอนเที่ยงและให้เราได้พัก เวลาแวะเราก็จะเอาขวดน้ำที่เราพกไปเติมน้ำจากร้านอาหาร หรือร้านค้าก็ได้มีตลอดทาง เป็นน้ำต้มค่ะ ราคาจะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณว่ายิ่งสูงยิ่งแพง ก็เข้าใจอยู่นะ ตอนซื้อที่ภูกระดึงเผลอๆแพงกว่าอีก ที่นี่ครั้งนึงที่จำราคาได้ก็ 80 บาท น้ำจะหมดเร็วโดยไม่รู้ตัวเพราะมันเหนื่อยมาก แนะนำว่าพกเกลือแร่ไปด้วยไว้จิบๆระหว่างทาง ช่วยได้จริงๆค่ะ ขนมขมเคี้ยวก็จำเป็นนะ…เราขนไปเยอะมาก แต่ก็กินจนหมด

10357817_408106952672480_1574465208045120482_n

อาหาร..เอาจริงๆก็ไม่ถูกปากเรานะ แต่เพื่อนๆในทริป โดยเฉพาะผู้ชายจะกินเยอะมากๆ เราเลยใช้สูตรทาคูมิเหมือนเดิม อ้อ อาหารตกจานละร้อย ที่ถูกหน่อยจะเป็นมาม่า (อร่อยสุดละ)ข้าวจะได้เยอะมาก กินสองคนบางทีไม่หมด พวกผู้ชายกินหมดอีกตามเคย

ห้องน้ำ..มีเรื่อยๆ ตามที่พักหรือร้านอาหาร ขอเข้าได้นะ ส่วนใหญ่คนที่นี่ใจดี อาจดูไม่สะอาดเท่าบ้านเรา แต่ถือว่าได้อยู่

10845937_408106929339149_1457375703025822157_n

10428552_408106862672489_2509761100491151457_n

>>> กลับมา Ghorepani กันต่อ <<< เดินฝ่าสายฝนในดงป่าไปเรื่อยๆตกเย็นก็ถึงที่พัก โดยจะมีเพียงไกด์ที่เดินไปพร้อมกับเรา ลูกหาบจะไปถึงที่พักก่อน วางของแล้วก็เดินกลับมาหาเราช่วยแบ่งของที่อยู่ในมือไปหาบอีก อยากจะบอกว่า….ลูกหาบโคตรฟิตอะ

wpid-1398159335996.jpg

10603622_408106872672488_8542876196488744412_n

ที่พักของเราคืนนี้ ได้อารมณ์ Local สุดๆ ไม่มีฮีทเตอร์ค่ะ แต่เป็นท่อสังกะสีที่ต่อตรงขึ้นมาบนห้องนอน ที่ชั้นหนึ่งจะมีการต้มน้ำไว้ เพื่อให้ไอความร้อนเคลื่อนตัวผ่านท่อที่ว่า แล้วเราก็จะได้รับไออุ่นบางเบาจากท่อนั่นเอง

ถึงที่พัก พวกเราก็….ถ่ายรูป อาบน้ำ ถ่ายรูป กินข้าว แล้วถ่ายรูปต่อ ก็วิวมันดี ถ่ายไปเหอะ ซักพักพายุลูกเห็บเข้าค่าาา ฝนตกกระหน่ำ ยังไงล่ะ ยังไงดี Poonhill พรุ่งนี้ของเรา Dipak บอกว่าถ้าฝนตก Poonhill อาจเห็นไม่ชัด คือแปลว่าอะไรคะ เดินมา 2 วัน 2 คืน อาจจะไม่ได้เห็น คือ??? ทำอะไรไม่ได้ มาสวดมนต์ภาวนากันค่ะพวกเรา

wpid-1397820590515.jpg

ตื่นตั้งแต่ตีสามหรือตีสี่นี่แหละ จำไม่ได้ค่ะ จำได้แค่ไม่แปรงฟัน ไม่ล้างหน้า ไม่เติมคิ้ว เติมปากใดๆ คว้าเสื้อผ้า กางเกง เสื้อหนาว ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าพันคอ หมวก สวมทับๆ พันๆ มันเข้าไป

cropped-10014744_10152462171239703_2489697450312509694_o1.jpg

10857789_408232872659888_2943523310291137312_n

10386372_408232862659889_402191892665667035_n

ตอนเช้ามืดจะหนาวมากค่ะ ยิ่งบน Poonhill นี่ไม่ต้องพูดถึง เป็นยอดเขาลมโกรกมาแบบเย็น
ยะเยือก นิ้วตอนที่ถอดถุงมือมากด shutter นี่ชาไปหมด นิ้วแทบจะขาดซะให้ได้ ขานี่ไม่ต้องพูดถึงก้าวไม่ออก ยิ้มไม่ออก

10389422_408232869326555_833884854595825345_n

10378164_408232865993222_7364885308070158338_n

10590407_408232875993221_7443758225645532243_n

จากที่บรรยายมาทั้งหมดอย่าเพิ่งตกใจนะ มันลบล้างได้ด้วยความสวยของ Annapurna แบบ Panorama View บนยอด Poonhill จริงๆ ดูจากรูปเอาเองเลยจ้าาา 

การแต่งกายขึ้น Poonhill…ไม่มีอะไรมากแค่กันหนาวกันลมได้ก็พอ
เดินขึ้นไปเรื่อยๆจะเริ่มร้อนก็ถอดและฝากลูกหาบไว้ก่อน ขึ้นไปถึงแล้วก็รีบหาลูกหาบล่ะ เพราะจะหนาวเหน็บแบบไม่ทันรู้ตัวเลย เอากลับมาใส่แทบไม่ทันส่วนไฟฉายส่องกบ ไกด์เตรียมให้ไม่ต้องเตรียมไปนะคะ

10352388_408232799326562_3448854843864328951_n

ขาลงแล้วจ้า ฝนตก ระยะทางไกล วิ่งทำเวลา อ้วก!!

10410177_408278012655374_8507596672948947931_n   10845911_408277965988712_772692998285622914_n

จั่วหัวมาซะน่ากลัวเลย แต่ก็ตามนั้นแหละค่ะ
เอาล่ะ คืนนี้เราจะไปนอน Ghandruk กันนะ ระยะทางไกลมาก ไกลกว่าทุกวัน
นอกจากจะไกลแล้ว ยังต้องเดินขึ้นเขา เดินลงเขา แล้วก็เดินขึ้นเขา เดินลงเขา ตลอดทาง
มันจะเจ็บปวดมากตอนที่เดินลงเขามาลูกนึงแล้วเห็นเสื้อคนแว่บๆ อยู่บนเขาอีกลูกที่อยู่ตรงหน้า หมายความว่า…นี่เราต้องเดินขึ้นเขาลูกนี้อีกเหรอเนี่ย เมื่อไหร่จะถึง จะตายอยู่ตรงนี้แล้วนะ

10421530_408278029322039_2076853940705028989_n

1743535_408278032655372_1163682615685509092_n10846503_408277982655377_639781192836569458_n

   1511228_408277962655379_4428072255851907819_n   10698532_408277979322044_8254282806418076039_n

10849786_408277959322046_3472910336072095192_n

10547406_408277972655378_7400549246392190878_n

10417438_408278035988705_9088126216417762101_n

เอาน่า..มาแล้วอย่าบ่น บอกตัวเองแล้วเดินต่อไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะ ถ้าเราทำเวลาไม่ได้ เราจะถึงที่พักค่ำ นั่นคือเราจะต้องเดินในป่าตอนกลางคืนและไม่มีไฟฉาย ไม่น้าาา เอาจริงเรากลัวการเดินป่ากลางคืนมาก ตกบ่ายฝนก็ดันมาตกอีก ทุกคนเลยวิ่ง ยังไงดีเรา เค้าวิ่งกันได้ เราก็ต้องวิ่งได้สิ

เราตัดสินใจวิ่งลุยฝน วิ่งเหยาะๆ ตั้งแต่บ่ายไม่มีหยุด จนถึงที่พักตอนหกโมงเย็น
ฟิตไปมั้ย?? ก็ถามตัวเองอยู่นะ ตอนนั้นคิดแค่ว่าไม่อยากเป็นตัวถ่วงคนอื่นเลยวิ่งด้วย

สุดท้าย เออ..ก็วิ่งได้นี่ แต่ไปถึงเท่านั้นแหละ อ้วกค่ะ อ้วกจริงๆ ไม่สบาย ไข้ขึ้น นอนเลย เป็นอันจบสำหรับวันแสนอันโหดร้ายของเรา (คนเดียว)

เดี๋ยวมาต่อ Ghandruk ให้นะ บอกเลยมันสวยมาก

ใส่ความเห็น